ชำแหละ 4 ประเด็นร้อน ลิเวอร์พูล-แมนยูฯ กอดคอโดนถล่มยับ
หงส์แดง” ลิเวอร์พูล บุกไปแพ้ แอสตัน วิลลา เละตุ้มเป๊ะ ส่วน “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พ่าย ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ยับคาบ้าน และนี่คือ 4 ประเด็นสำคัญที่ได้เห็นจากทั้ง 2 เกม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้ ทอตแนม ฮอตสเปอร์ 1-6
1.ใบแดงคือจุดเปลี่ยน แต่ฟอร์มไก่ก็เอาเรื่อง
เกมนี้ แมนยูฯ ออกสตาร์ตอย่างสวยหรู ได้ประตูขึ้นนำเร็วตั้งแต่นาทีแรก จากการยิงจุดโทษของ บรูโน เฟอร์นันเดส แต่เพราะความผิดพลาดของบรรดาแนวรับทำให้อีก 3 นาทีต่อมา สเปอร์ส ตีเสมอเป็น 1-1 ด้วยลูกยิงของ ตองกีย์ เอ็นดอมเบเล จากนั้นนาทีที่ 7 สเปอร์ส แซงขึ้นนำเป็น 2-1 จากจังหวะหลุดเดี่ยวไปยิงของ ซอน เฮือง มิน ซึ่งเมื่อดูจากรูปเกม ณ เวลานั้น ปิศาจแดงยังมีโอกาสกลับสู่เกมได้อย่างแน่นอน แต่ทันใดนั้น นาทีที่ 29 ปิศาจแดงต้องมาเหลือ 10 คน เมื่อ อองโตนี มาร์เชียล ดันไปตบแถวๆ ใบหน้าของ เอริค ลาเมลา เนื่องจากโมโหที่อีกฝ่ายชักศอกใส่ แต่ผู้ตัดสินกลับไม่มีการเช็กวีเออาร์ และให้ใบแดงไล่ มาร์เชียล ออกจากสนามไปซะอย่างนั้น ส่วน ลาเมลา ไม่โดนแม้กระทั่งใบเหลือง และช่วงที่เหลือของเกมก็ตามสภาพ สเปอร์ส ครองเกมไว้ได้ทั้งหมด และบุกมาถล่ม ปิศาจแดง ไปขาดลอย 6-1
2.แนวรับผีสุดพัง เกมรุกไก่สุดยอด
เกมนี้แนวรับ แมนยูฯ สอบตกยกแผงเลยก็ว่าได้ คู่เซ็นเตอร์อย่าง แฮร์รี แม็คไกวร์ กับ เอริก ไบญี ต่างแสดงความผิดพลาดออกมาให้เห็นอยู่บ่อยครั้งระหว่างเกม ส่วน แบ็กซ้ายอย่าง ลุค ชอว์ ก็หลุดตำแหน่ง และกลายเป็นบ่อให้แนวรุกของสเปอร์สโจมตีได้ง่ายๆ เช่นเดียวกับแบ็กขวาอย่าง อารอน วาน บิสซากา ที่ฟอร์มยังไม่กลับฝั่งเสียที ยืนตำแหน่งแปลกๆ มักจะหุบเข้าไปข้างใน ทำให้คู่แข่งมีพื้นที่ในการโจมตีเยอะมาก ขณะที่มิดฟิลด์ตัวรับอย่าง เนมันยา มาติช ก็ไม่ได้ช่วยตัดเกมและสกรีนให้กองหลังเลย แถมลูกมืออย่าง พอล ป็อกบา ก็เสียบอลเป็นว่าเล่น แถมไม่ช่วยไล่บอลอีกต่างหาก ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ไก่เดือยทองจะบุกเอาบุกเอา อย่างไรก็ตาม ต้องชมแนวรุกของสเปอร์สด้วยว่าเล่นกันได้ไหลลื่นและเฉียบคมมากๆ แฮร์รี เคน ไม่ใช่กองหน้าตัวเป้าที่รอแต่ทำประตูอีกต่อไป เขาสามารถช่วยเหลือทีมและแอสซิสต์ได้ด้วย ส่วน ซอน เฮือง มิน ก็ฝีเท้าพัฒนาขึ้นทุกวัน จังหวะกระชากบอลไปข้างหน้าด้วยความเร็วนั้นอันตรายสุดๆ
แอสตัน วิลลา ชนะ ลิเวอร์พูล 7-2
1.โอลลี วัตกินส์-แจ็ค กรีลิช สุดยอด
วัตกินส์ เพิ่งย้ายจากทีมเบรนท์ฟอร์ด ในลีก เดอะ แชมเปียนชิพ มาอยู่กับ แอสตัน วิลลา ในช่วงซัมเมอร์นี้ ด้วยค่าตัวสถิติสโมสร 28 ล้านปอนด์ และนัดนี้เขาก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาเล่นได้คุ้มค่าตัวขนาดไหน ใครจะไปเชื่อว่ากองหน้าที่ไม่เคยเล่นในระดับพรีเมียร์ลีกมาก่อน จะมาซัด 3 ประตูใส่แชมป์เก่าอย่าง ลิเวอร์พูล แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว จริงๆ เขาน่าจะทำประตูได้มากกว่านี้ด้วยซ้ำแต่ทำไม่ได้ แต่การซัด 3 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์ มันก็เพียงพอที่จะทำให้เขาได้ตำแหน่ง แมน ออฟ เดอะ แมตช์ แล้ว ส่วน แจ็ค กรีลิช ยังคงเป็นกำลังสำคัญที่ วิลลา จะขาดไปไม่ได้เลย มีส่วนร่วมทั้งเกมรุกและเกมรับ นัดนี้ทำไป 2 ประตู กับอีก 3 แอสซิสต์ ในอนาคตค่าตัวจะพุ่งไปอีกเยอะแน่นอน
2.หงส์ขาดมาเนเหมือนขาดใจ-หลายคนฟอร์มน่าผิดหวัง
เป็นที่ทราบกันดีว่าเกมนี้ ลิเวอร์พูล ไม่สามารถใช้งาน ซาดิโอ มาเน แนวรุกคนสำคัญได้ เนื่องจากถูกตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มาเนไม่ได้มีดีแค่เกมรุก มีหลายครั้งที่เราจะเห็นได้ว่าเขาลงมาช่วยเกมรับ หรือถอยต่ำลงมาล้วงบอลไปทำเกมเองด้วย ซึ่งเกมนี้พอไม่มีเขาแล้วเกมของหงส์แดงมันดูเหมือนขาดอะไรไปบางอย่าง ฝั่งซ้ายลดความน่ากลัวลงไปเยอะ ส่วนนักเตะหลายๆ คนก็โชว์ฟอร์มได้น่าผิดหวัง อย่างเช่นตำแหน่งผู้รักษาประตู อาเดรียน ได้รับโอกาสลงสนามแทน อลิสสัน เบคเกอร์ ที่มีอาการบาดเจ็บ แต่กลับไม่ใช้โอกาสนี้ในการโชว์ว่าดีพอที่จะเบียดแย่งมือ 1 ได้ แถมยังก่อความผิดพลาดจนทีมโดนนำเร็วอีกต่างหาก ส่วนอีก 6 ประตูที่โดนไปก็ไม่รู้จะพูดยังไง มีทั้งโดนจ่อๆ มีทั้งบอลแฉลบเปลี่ยนทาง คงต้องไปโทษกองหลังแล้วกันที่ปล่อยให้แข้งวิลลากระหน่ำยิงกันขนาดนี้ โดยเฉพาะ โจ โกเมซ กับ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ที่เล่นเกมรับแย่มากในนัดนี้.