"พิธิวัตต์" กระตุ้นแข้งไทยรวมใจสู้ยูเออี ชี้ยังมีโอกาสเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้าย
สถานการณ์ต่างกัน! พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล มิดฟิลด์จอมพลังของทีมชาติไทย ปลุกเร้าแข้งช้างศึกรวมใจสู้ในเกมปะทะ ยูเออี ศึกคัดบอลโลก 2022
วันที่ 6 มิ.ย. 64 พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล กองกลางตัวรับทีมชาติไทย มองว่าการเจอกับยูเออีในครั้งนี้ แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับตอนที่ทัพช้างศึกเคยเอาชนะมาได้ 2-1 ที่ประเทศไทย ก่อนมีคิวดวลกันอีกครั้งในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง กลุ่ม G นัดที่ 7
ทั้งนี้ มิดฟิลด์วัย 26 ปี เป็นแข้งตัวหลักของทัพช้างศึกตั้งแต่ อากิระ นิชิโนะ กุนซือชาวญี่ปุ่น เข้ามาคุมทีมชาติไทย โดยก่อนหน้านี้ พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล เคยมีส่วนช่วยให้ทีมเปิดบ้านเอาชนะ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 2-1 ในเกมคัดบอลโลก 2022 เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2019 ก่อนที่ทั้งสองทีมจะมีคิวพบกันอีกครั้งในเกมนัดที่ 7 ซึ่งทีมชาติไทยต้องการสามคะแนนเท่านั้น เพื่อลุ้นเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้ายต่อไปพิธิวัตต์ กล่าวว่า "เกมกับอินโดนีเซียเป็นเกมที่น่าเสียดายครับ ที่ไม่สามารถเก็บชัยชนะได้ ส่วนตัวผมรู้สึกผิดหวังกับผลการแข่งขัน แต่มันก็ผ่านไปแล้ว สิ่งที่ทีมยังต้องปรับร่วมกันผมมองว่าเป็นการสื่อสารร่วมกันในสนามและความสัมพันธ์ในทีมครับ ทุก ๆ การฝึกซ้อมเราจะคุยกันตลอดเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดที่มันเกิดขึ้นในเกมแรก ก่อนลงสนามแมตช์ต่อไปกับยูเออี โค้ชนิชิโนะสื่อสารกับทีมเสมอ คอยแนะนำและหารือร่วมกันในทีม ช่วยกันปรับแก้สิ่งต่างๆ"
กองกลางกัปตันทีมสิงห์ เชียงรายฯ เผยถึงคู่แข่งในเกมถัดไปอย่างยูเออีว่า "พวกเขามีผลการแข่งขันที่ดีในเกมล่าสุด (ชนะมาเลเซีย 4-0) ฉะนั้นผมมองว่าพวกเราต้องกลับมาทำงานให้หนักขึ้นในการเตรียมทีม ส่วนในเกมแรกที่เราเคยชนะมา (ทีมชาติไทยชนะ 2-1) ผมมองว่ามันแตกต่างกันสิ้นเชิง ด้วยระยะเวลา, การเตรียมทีม และสิ่งแวดล้อมที่เราต้องมาเยือนพวกเขา เกมที่ไทยมันเป็นอดีตไปแล้ว เราต้องโฟกัสกับปัจจุบันครับ ผมพยายามทำงานหนักอยู่เสมอ ทำตามสิ่งที่โค้ชและสตาฟฟ์ต้องการ ผมเชื่อว่าทุกคนมีเป้าหมายเดียวกันคือชัยชนะ โอกาสการเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้ายของทีมชาติไทยยังมีครับ ถ้าเราช่วยกันเล่นในสองเกมที่เหลือ พวกเราเชื่อว่าเราทำได้"
สำหรับ ทีมชาติไทย มีโปรแกรมลงเล่นในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง กลุ่ม G นัดที่ 7 พบกับ ทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ณ สนาม ซาบีล สเตเดียม ในวันที่ 7 มิถุนายน 2564 เวลา 23.45 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ถ่ายทอดสดทาง ไทยรัฐทีวีช่อง 32.