ตะลุยฟุตบอลโลก : “ลาลีกา” คัมแบ็ก!
หลังจากมีการประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่า ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2019-20 จะกลับมาแข่งขันกันต่ออีกครั้งในช่วงกลางเดือนนี้ หลังต้องหยุดแข่งไปนานร่วม 3 เดือน เพราะการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยจะประเดิมเปิดหัวด้วย 2 คู่นัดตกค้าง ในคืนวันพุธที่ 17 มิถุนายนนี้ ซึ่งคู่เอกเป็นเกม “เรือใบสีฟ้า” แมนฯซิตี้ เปิดรังดวลกับ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล และคู่แอสตัน วิลลา พบกับเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด
จากนั้นก็เข้าสู่โปรแกรมปกติอย่างเต็มรูปแบบในช่วงสุดสัปดาห์ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายนเป็นต้นไป (รวมถึงเสาร์ที่ 20 มิ.ย. และอาทิตย์ที่ 21 มิ.ย.) รวมทั้งหมด 10 คู่ ดังนี้
แอสตัน วิลลา-เชลซี, บอร์นมัธ-คริสตัล พาเลซ, ไบรท์ตัน-อาร์เซนอล, เอฟเวอร์ตัน-ลิเวอร์พูล, แมนฯซิตี้-เบิร์นลีย์, นิวคาสเซิล- เชฟฯยู, นอริช-เซาแธมป์ตัน, สเปอร์ส-แมนฯยู, วัตฟอร์ด-เลสเตอร์ และเวสต์แฮม-วูล์ฟส์ โดยทุกคู่จะเตะแบบสนามปิด ไม่มีแฟนบอลเข้าชม
สำหรับเวลาแข่งขันจะเป็นเวลาใหม่ วันเสาร์เตะ 4 ช่วง คือ 12.30 น., 15.00 น., 17.30 น. และ 20.00 น. เช่นเดียวกับวันอาทิตย์ที่เตะ 4 ช่วงเช่นกัน คือ 12.00, 14.00, 16.30 และ 19.00 น. (ถ้าเป็นเวลาไทย บวกไปอีก 6 ชั่วโมง)
ขณะที่วันศุกร์และวันจันทร์ จะคิกออฟเวลา 20.00 น. ส่วนโปรแกรม“มิดวีก”กลางสัปดาห์ (อังคาร-พุธ-พฤหัสฯ) จะเตะเวลา 18.00 น. และ 20.00 น.ทั้ง 92 แมตช์ที่เหลือจะถ่ายทอดสดให้ชมที่อังกฤษ ผ่านช่องทางพันธมิตรอย่างสกายสปอร์ตส, บีที สปอร์ตส, บีบีซี สปอร์ต และ แอมะซอน ไพรม์ โดยจะเป็นการถ่ายทอดสดแบบ“ฟรี-ทู-แอร์” ถึง 25 คู่ด้วยกัน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ เกมเมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี้ ระหว่างเอฟเวอร์ตัน กับลิเวอร์พูล
อย่างไรก็ตาม ศึกเมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี้ระหว่างทอฟฟี่กับหงส์แดง อาจจะโยกไปเตะสนามกลาง ซึ่งคาดว่าจะเป็นสนามเอติฮัด สเตเดียม ของทีมเรือใบสีฟ้า ในเมืองแมนเชสเตอร์ วันที่ 20 มิ.ย.นี้
เนื่องจากตำรวจเมืองผู้ดีกลัวจะมีความวุ่นวายเกิดขึ้น เพราะหาก “หงส์แดง” คว้าชัยนัดนี้ จะทำให้พวกเขาคว้าแชมป์ลีกสูงสุดที่รอคอยมานานถึง 30 ปี
มองแล้วมีความเป็นไปได้สูงมากที่ลิเวอร์พูลอาจจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกซีซันนี้ที่สนามกลาง
ขณะที่ศึกลาลีกา สเปน ได้ประกาศดีเดย์กลับมาแข่งกันต่ออีกครั้งในวันพฤหัสฯที่ 11 มิ.ย.นี้ หลังหยุดไปนาน 3 เดือน เพราะการระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยจะประเดิมเกมแรกด้วยศึกดาร์บี้แมตช์ระหว่างเซบีญากับเรอัล เบติส
ส่วน 2 ยักษ์ใหญ่อย่างบาร์เซโลนากับ เรอัล มาดริด จะกลับมารีสตาร์ตนัดแรกในวันเสาร์ที่ 13 และวันอาทิตย์ที่ 14 มิ.ย.ตามลำดับ
โดยแชมป์เก่าบาร์ซาจะบุกไปเยือนมายอร์กา ในวันเสาร์ที่ 13 มิ.ย. ขณะที่เรอัล มาดริด จะเปิดบ้านรับมือเออิบาร์ในวันอาทิตย์ที่ 14 มิ.ย.
สถานการณ์ของตารางคะแนนศึกลาลีกาก่อนหยุดแข่งเพราะไวรัสระบาด บาร์เซโลนานำเป็นจ่าฝูง ด้วยการมีคะแนนมากกว่าเรอัล มาดริด อยู่แค่ 2 แต้มเท่านั้น ขณะเหลือเกมให้เล่นอีก 11 นัดจะจบฤดูกาล
ซึ่งดูแล้วการลุ้นแชมป์ลาลีกาซีซันนี้ยังคงเปิดกว้างอยู่ ทั้งบาร์เซโลนาและเรอัล มาดริด มีโอกาสที่จะเป็นแชมป์พอๆกัน
ดีไม่ดี...แชมป์ลาลีกาฤดูกาลนี้อาจตัดสินกันจนถึงฎีกาในนัดสุดท้ายก็เป็นได้.หมวดแซม