ยกแชมป์ ให้ลิเวอร์พูล แมนฯ ซิตี้ บุกแพ้ เชลซี 1-2
เกมพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ได้แชมป์แล้ว หลังจาก แมนฯ ซิตี้ ที่เหลือ 10 คนบุกไปแพ้ เชลซี 1-2 ส่งผลให้ทำแต้มไล่ไม่ทันในโปรแกรมที่เหลือ พร้อมยกแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยแรกให้กับ ลิเวอร์พูล ไปครอง
แมนฯ ซิตี้ ยกแชมป์พรีเมียร์ลีก สมัยแรกให้ กับ ลิเวอร์พูล เป็นที่เรียบร้อย หลังบุกไปแพ้ เชลซี 1-2 ทำให้เวลานี้แต้มตามหลัง 23 แต้ม แต่เหลือเกมแข่งเพียง 7 เกมเท่านั้น หมดสิทธิ์ไล่ตามทีม "หงส์แดง”ได้ทัน
เกมพรีเมียร์ลีก นัดที่ 31 เชลซี อันดับ 4 เปิดบ้านพบ แมนฯ ซิตี้ รองจ่าฝูง ที่เกมนี้ต้องชนะเพื่อยืดอายุการเป็นแชมป์ของ ลิเวอร์พูล
แฟรงค์ แลมพาร์ด เปลี่ยนทีมเชลซี 2 จุดจากเกมชนะ แอสตัน วิลล่า 2-1 โดยส่ง คริสเตียน พูลิซิซ และ รอสส์ บาร์คลีย์ ลงมาแทน รูเบน ลอฟตัส ชีค และ มาเตโอ โควาซิซ ในแดนกลาง แดนหน้าฝากความหวังไว้ที่ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ เช่นเดิม
ทางฝั่ง เป๊ป กวาดิโอล่า กุนซือแมนฯ ซิตี้ เกมนี้เปลี่ยนถึง 6 ตำแหน่งจากเกมชนะ เบิร์นลี่ย์ 5-0 โดยไม่มี เซร์คิโอ อเกวโร่ ศูนย์หน้าที่เจ็บเข่าในเกมดังกล่าว ในแผงแบ๊กโฟร์ เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์, ไคล์ วอล์คเกอร์ และ เบนจาแม็ง เมนดี ได้กลับมาสตาร์ตทั้งหมด เช่นเดียวกับ อิลคาย กุนโดกัน และ เควิน เดอ บรุน ที่มีชื่อลงทำเกมแดนกลาง
นาทีที่ 18 แมนฯ ซิตี้ น่าจะได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ มาห์เรซ เปิดฟรีคิกมาหน้าประตู แฟร์นันดินโญ ได้โฉบมาโหม่ง แต่ เกปา ยังบินปัดออกไปได้
นาทีที่ 33 เป็นโอกาสลุ้นของ เชลซี บ้างจากจังหวะเตะมุม วิลเลี่ยน เปิดมาให้ อันเดรส คริสเตนเซน ได้โหม่งจ่อๆ แต่ เอแดร์ซอน ยังปัดเอาไว้ได้
นาทีที่ 36 เชลซี มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากความผิดพลาด ของ อิลคาย กุนโดกัน กับ เบนจาแม็ง แมนดี ที่ไม่รู้กันในจังหวะเล่นบอลทำให้ พูลิซิซ ฉกบอลและสปีดจากบริเวณกลางสนามเข้าไปยิงสวนตัว เอแดร์ซอน อย่างยอดเยี่ยม
ครึ่งหลัง นาทีที่ 55 แมนฯ ซิตี้ มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากฟรีคิกของ เควิน เดอ บรุน ที่ยิงบอลฮุกเสียบใต้คานเข้าไปอย่างสวยงาม
อีก 2 นาทีต่อมา แมนฯ ซิตี้ น่าจะพลิกขึ้นนำ ริยาด มาห์เรซ จ่ายตัดเข้ากลางมาให้ ราฮีม สเตอร์ลิง แต่ สเตอร์ลิง ยิงไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 62 แมนฯ ซิตี้ รอดการเสียประตูจากจังหวะที่ เอแดร์ซอน เตะเปิดเกมพลาดมาเข้าทาง เมสัน เมาน์ท ดีที่ดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษ ยิงไปเข้าข้างตาข่ายเท่านั้น
นาทีที่ 67 ทีมเยือนยังไม่สามารถพลิกแซงได้ ราฮีม สเตอร์ลิง แม้จะพยายาม ปั่นด้วยขวา แต่ลูกโค้ไม่พอที่จะเป็นประตู
นาทีที่ 71 คริสเตียน พูลิซิช ยังทำประตูที่ 2 ให้เชลซีไม่ได้ จังหวะนี้ดาวเตะทีมชาติสหรัฐฯ แตะหนีและยิงผ่านมือ เกปา ไปแล้วแต่ยังเป็น ไคล์ วอล์คเกอร์ ที่มาสกัดบนเส้นไว้ได้
แต่แล้วนาทีที่ 76 แมนฯ ซิตี้ มาเหลือ 10 คน จังหวะนี้ แฟร์นันดินโญ ใช้มือสกัดบอลก่อนลูกข้ามเส้นผู้ตัดสินเรียก VAR เช็คดูก่อนแจกใบแดงให้ แฟร์นันดินโญ พร้อมเป่าจุดโทษให้เจ้าถิ่น และเป็น วิลเลี่ยน รับหน้าที่สังหารไม่พลาด เชลซี นำ 2-1
ช่วงเวลาที่เหลือ แมนฯ ซิตี้ พยายามเรียกประตูคืนมา แต่ไม่สามารถทำได้ จบเกม เชลซี ชนะ 2-1 มีเพิ่มเป็น 54 แต้มอยู่อันดับ 4 เท่าเดิม ขณะที่ แมนฯ ซิตี้ ยกแชมป์พรีเมียร์ลีก สมัยแรกให้ กับ ลิเวอร์พูล เป็นที่เรียบร้อย โดยเวลานี้แต้มไล่ไม่ทัน โดยเวลานี้แต้มตามหลัง 23 แต้ม แต่เหลือเกมแข่งเพียง 7 เกม
รายชื่อตัวจริงของทั้งสองทีม
เชลซี : เกปา อาร์รีซาบาลาก้า - เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, อันเดรส คริสเตนเซ่น, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, มาร์กอส อลอนโซ่ - รอสส์ บาร์คลีย์,เอ็นโกโล่ ก็องเต้,เมสัน เมาน์ท -วิลเลียน, โอลิวิเยร์ ชิรูด์, คริสเตียน พูลิซิช
แมนฯ ซิตี้ : เอแดร์ซอน โมราเอส - ไคล์ วอล์คเกอร์, แฟร์นันดินโญ, เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์,เบนจาแม็ง เมนดี - อิลคาย กุนโดกัน,โรดรี, เควิน เดอ บรุน- ริยาด มาห์เรซ,แบร์นาร์โด้ ซิลวา, ราฮีม สเตอร์ลิง