เจ้าสัวคืนเวทีพรีเมียร์

หลังตกชั้นลงไปเล่นในศึกเดอะแชมเปียนชิปได้เพียงปีเดียว “เจ้าสัวน้อย” ฟูแลม ก็คัมแบ็กกลับขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีได้อีกครั้ง หลังเบียดเอาชนะเบรนท์ฟอร์ดแบบหวุดหวิดในช่วงต่อเวลาพิเศษ 2–1 ในเกมเพลย์ออฟเลื่อนชั้นนัดชิงชนะเลิศ ที่สนามเวมบลีย์ เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ส่งผลให้ฟูแลมซิวตั๋วใบสุดท้ายเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลหน้าตามหลังลีดส์ ยูไนเต็ด และเวสต์บรอมวิช อัลเบียน

ฟูแลมทีมของกุนซือสกอตต์ พาร์เกอร์ จบอันดับ 4 ในฤดูกาลปกติของศึกแชมเปียนชิป ทำให้ต้องไปดวลกับ “บลูเบิร์ดส์” คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ทีมอันดับ 5 จากฤดูกาลปกติ ในรอบรองชนะเลิศของการเพลย์ออฟ ซึ่งนัดแรกฟูแลมบุกไปต้อนคาร์ดิฟฟ์คาบ้านมาได้ก่อน 2-0 ทำให้โอกาสเข้าชิงเพลย์ออฟสดใสอย่างยิ่ง

แต่นัด 2 “เจ้าสัวน้อย” ดันพลาดท่าพ่ายคาร์ดิฟฟ์คาบ้าน 1-2 ทว่ารวมผลสองนัด ฟูแลม กินบุญเก่าเฉือนคว้าชัยไปได้ 3-2 ผ่านเข้าไปชิงตั๋วใบสุดท้ายเลื่อนชั้นขึ้นพรีเมียร์ลีกกับ “เดอะ บีส์” เบรนท์ฟอร์ด ที่รอบตัดเชือกเพลย์ออฟพลิกเฉือนชนะสวอนซี 3-2 ผ่านเข้าชิงตั๋วขึ้นลีกสูงสุดหนแรกในรอบ 73 ปีของสโมสร

เกมแชมเปียนชิปเพลย์ออฟนัดชิงชนะเลิศ มีขุมทรัพย์มหาศาลกว่า 100 ล้านปอนด์ เป็นเดิมพัน เพราะถ้าเลื่อนชั้นได้ ทีมก็จะได้รับส่วนแบ่งค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดรวมถึงรายได้อื่นๆ ซึ่งคาดว่าเบรนฟอร์ดจะได้รับประมาณ 160 ล้านปอนด์ (6,400 ล้านบาท)

ส่วนฟูแลมจะได้รับประมาณ 135 ล้านปอนด์ (5,400ล้านบาท)

สุดท้ายเกมนี้จบลงด้วยชัยชนะของฟูแลม ที่เฉือนชนะเบรนท์ฟอร์ดในช่วงต่อเวลาพิเศษ 2-1 (หลังเสมอ 0-0 ใน 90 นาที) ซึ่งพระเอกของฟูแลม ในเกมนี้ จะเป็นใครไม่ได้นอกจากโจ ไบรอัน แบ็กซ้ายตัวเก่งของทีม หลังเหมาซัดคนเดียวสองประตูพาทีมคว้าตั๋วใบสุดท้ายขึ้นพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ

ประตูแรกของไบรอันเป็นลูกยิงฟรีคิกสุดเฉียบเกือบครึ่งสนามระยะร่วม 40 หลา ในนาที 105 ซึ่งเจ้าตัวมองเห็นว่าดาวิด รายา นายทวารเบรนท์ฟอร์ด ออกมาไกลจากเส้นประตู เลยตัดสินใจปั่นโค้งบอลกระดอนพื้นเสียบตาข่าย ส่วนประตูที่ 2 ไบรอันทำชิ่งกับมิโตรวิช ก่อนจะหลุดเข้าไปยิงอย่างเฉียบขาด ในนาที 117

อีกคนที่ต้องยกเครดิตให้ไปเต็มๆก็คือ สกอตต์ พาร์เกอร์ กุนซือหนุ่มไฟแรงวัย 39 ปี ที่สามารถนำฟูแลมเลื่อนชั้นกลับขึ้นมาเล่นพรีเมียร์ลีก ได้อีกครั้ง หลังตกชั้นไปแค่ปีเดียว ซึ่งเป็นการคุมทีมเต็มฤดูกาลครั้งแรกของเขาด้วย

พาร์เกอร์เข้ามาคุมทีมฟูแลม แทนที่เคลาดิโอ รานิเอรี ที่โดนปลดออกจากตำแหน่งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2019

แต่พาร์เกอร์ก็ไม่สามารถช่วยให้ “เจ้าสัวน้อย” รอดพ้นจากการตกชั้นในศึกพรีเมียร์ลีก ซีซัน 2018-19 ได้ ก่อนที่เขาจะพาฟูแลมเลื่อนชั้นกลับคืนสู่พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลถัดมา (2019-20)

ปัจจุบัน “เจ้าสัวน้อย” ฟูแลม มีซาฮิด ข่าน มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน เชื้อสายปากีสถาน เป็นเจ้าของสโมสร โดยข่านซื้อกิจการเทกโอเวอร์สโมสรฟูแลม จากโมฮาเหม็ด อัล ฟาเยด มหาเศรษฐีชาวอียิปต์ ด้วยวงเงิน 150-200 ล้านปอนด์ เมื่อปี 2013

ทีมฟูแลมชุดนี้มีสตาร์ดังอย่าง อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช กองหน้าทีมชาติเซอร์เบีย, แอนโธนี น็อก–คาร์ต หัวหอกชาวฝรั่งเศส, โจ ไบรอัน แบ็กซ้ายตัวเก่ง และจอช โอนามาห์ กองกลางเลือดผู้ดี เป็นตัวชูโรง

แต่กระนั้นเชื่อว่าซัมเมอร์นี้ ฟูแลมคงจะมีงบให้พาร์เกอร์ซื้อแข้งใหม่เสริมทัพอีก 2-3 รายเพื่อสู้ศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาลหน้า 2020-21 ที่จะรูดม่านเปิดฉากในวันเสาร์ที่ 12 กันยายนนี้

หวังว่า “เจ้าสัวน้อย” คงจะไม่มาเร็วไปเร็ว ผมอยากเห็นฟูแลมเอาตัวรอดได้ในฤดูกาลหน้า.

หมวดแซม